4 ตำราความสำเร็จ เปลี่ยนร้านขนาดเล็ก ให้เป็นผู้นำในตลาด

เปิดคัมภีร์ต่อยอดธุรกิจ พิชิตผลกำไร สู่เจ้าใหญ่ในตลาด

ใครบอกว่าลูกไก่ต้องอยู่ในกำมือตลอดไป จากร้านค้าเล็ก ๆ ก็มุ่งสู่การเป็นผู้นำของตลาดได้ วันนี้ Wongnai for Business ได้นำเอาสูตรเด็ดจากหลาย ๆ ตำราการตลาดมามัดรวมให้เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ได้ทราบถึงเคล็ดลับง่าย ๆ เพียง 4 ข้อ ว่าทำอย่างไรถึงจะมุ่งสู่การเป็นที่หนึ่งของตลาด บอกได้เลยว่ามีหลายท่านที่นำไปปรับใช้แล้วประสบความสำเร็จจริง ๆ ทั้งยอดที่ปังขึ้น กำไรที่ก้าวกระโดด เท่านี้ ก็เตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าสัวคนใหม่ได้เลย !

1. สร้าง Personal Brand เป็นแผนให้ลูกค้าจำ

ต้องอธิบายกันก่อนว่า “Personal Brand” ถ้าแปลตรงตัวในภาษาไทย “แบรนด์ส่วนบุคคล” ในที่นี้คือภาพลักษณ์ประจำตัวของบุคคลหรือแบรนด์  ซึ่งหมายถึงการพยายามทำให้ลูกค้าจดจำคุณอาจจะด้วยบุคลิกที่โดดเด่น การบริการที่โดดเด่น แพคเกจจิ้งที่โดดเด่น หรือคุณภาพของสินค้าที่โดดเด่น เราจะลองยกตัวอย่างเผื่อคุณจะให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น ถ้าเราเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อสาหร่ายเราจะนึกถึงแบรนด์… ถ้าเราจะซื้ออาหารแมวเราจะนึกถึงแบรนด์… หรือถ้าเราจะกินข้าวร้านตามสั่งที่อร่อยที่สุดเราจะนึกถึงร้าน… เห็นมั้ยว่าชื่อเหล่านี้ได้ผุดขึ้นในหัวของคุณโดยอัตโนมัติ 

แน่นอนว่าการเป็นร้านค้าขนาดเล็กมันค่อนข้างยากอยู่แล้วกับการทำอะไรบางอย่าง ให้คนสามารถจดจำร้านเราได้ เพราะกระแสไม่ได้มีมากเท่าร้านค้าขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องเสียค่าโฆษณามากกว่าหลายเท่าที่แท้จริงแล้วอาจเป็นการเสียค่าใช้จ่ายโดยที่ไม่จำเป็น ดังนั้นเราควรที่จะสร้างจุดเด่นบางอย่าง ให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและจดจำเราได้ด้วยจุดเด่นข้อนั้น ถือเป็นข้อดีที่ในบางครั้งเราอาจไม่จำเป็นต้องเสียค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าประจำได้ทำหน้าที่เป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ให้คนอื่น ๆ เข้ามาซื้อหรือใช้บริการร้านเรามากขึ้นอยู่แล้ว

2. คิดให้ดีก่อนมีสงครามราคา

หลายท่านอาจจะมองเห็นช่องทางหนึ่งในการเรียกลูกค้าให้มาร้านเรามากขึ้นด้วยการลดราคาสินค้า แน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้อาจจะส่งผลดีในระยะแรก ลูกค้ามองเห็นร้านเรามากขึ้น ยอดซื้อเพิ่มขึ้น แต่ก็เหมือนเป็นการจุดชนวนอย่างหนึ่งให้ร้านค้าขนาดใหญ่หันมามองเราด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นสงครามที่แท้จริงก็จะเริ่มขึ้นกับเกมตัดราคา ตัดกันไป ตัดกันมา แน่นอนว่าร้านค้าที่มีขนาดใหญ่กว่า ทุนหนากว่า ลูกค้ามากกว่า ย่อมชนะด้วยข้อได้เปรียบเหล่านี้ สุดท้ายคุณอาจจะเป็นผู้แพ้ และต้องเป็นผู้เดินออกจากตลาดไปเสียเอง

3. การศึกษาตลาดเป็นสิ่งจำเป็น

ทุกธุรกิจหรือการทำการค้าจำเป็นที่จะต้องศึกษาตลาดของสินค้าหรือบริการที่ตัวเองกำลังทำการค้าอยู่  เพราะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจที่คุณต้องรู้ และจะมีส่วนช่วยในการมองหาช่องทางที่ดี โอกาสที่เหมาะสม ในการสร้างกลยุทธ์การขายต่าง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจร้านของเรา

  • ศึกษาลูกค้าในตลาด

โดยทำการศึกษาลูกค้าว่าลูกค้าเป็นใคร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีพฤติกรรมอย่างไร ลูกค้ามีปัญหาอะไรถึงต้องซื้อหรือใช้บริการเรา แล้วเราจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร อีกทั้งลูกค้าจะสามารถซื้อหรือใช้บริการของเราได้จากที่ไหน  สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนการประเมินลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้มองเห็นถึงปัญหา จากนั้นจึงคิดวิธีการแก้ไขให้ถูกใจกับกลุ่มลูกค้ามากที่สุด

  • ศึกษาคู่แข่งแล้วเทียบกับร้านค้าตัวเอง

การศึกษาคู่แข่งเหมือนการศึกษาความลึกซึ้งของตลาดที่เราอยู่ เพราะยิ่งเราศึกษาคู่แข่งออกมาได้ลึกซึ้งมากเท่าไหร่ ก็เป็นการเรียนรู้และพัฒนาร้านค้าของเรามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้มองเห็นภาพความเป็นจริงของตลาดด้วย เช่น การศึกษาว่าร้านนั้นขายดีเพราะอะไร ทำไมร้านนั้นขายไม่ดี ร้านนี้มีจุดเด่นอะไร แล้วนำกลับมาพิจารณากับตัวเองว่าเรามีดีอย่างไรที่ร้านอื่น ๆ ไม่มีเหมือนเรา คำตอบเหล่านี้จะสามารถมีส่วนช่วยในการดึงจุดเด่นของร้านหรือแบรนด์ออกมา เพื่อให้ร้านของคุณดึงดูดลูกค้าด้วย Personal Brand ได้ง่ายขึ้น

4. คิดนอกกรอบ และออกจากค่านิยมเดิม ๆ

คนเรามักบอกว่า “ทำอะไรเดิม ๆ ย่อมได้ผลลัพธ์แบบเดิม” ดังนั้นเราจึงควรหาอะไรใหม่ ๆ เพื่อเป็นส่วนช่วยในการขายของอยู่เสมอ หลายคนอาจจะติดอยู่กับคำพูดที่ว่า “ก็เคยทำกันมาแบบนี้” ทั้งนี้ อยากให้ลองปรับความคิด เปลี่ยนมุมมอง ให้กว้างขึ้นลองหาแนวคิดใหม่ ๆ อาจจะเริ่มจากการศึกษาตลาดอื่นว่ามีเทคนิคหรือกลยุทธ์ในการขายอย่างไร ไม่แน่ว่าแนวคิดเหล่านั้นเมื่อรวมเข้ากับแนวคิดเดิม ๆ ปรับสักนิดเปลี่ยนสักหน่อย อาจจะเกิดไอเดียใหม่ ๆ ขึ้นมา สิ่งเหล่านี้อาจจะมอบประสบการณ์ที่คาดไม่ถึงให้กับร้านค้าของคุณ อีกทั้งอาจจะมีส่วนช่วยในการขายหรือการให้บริการที่ดีขึ้น สุดท้ายแล้วถ้าไอเดียนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร คุณก็สามารถปรับเปลี่ยนและเรียนรู้กับมันได้ ดีกว่าการทำอะไรแบบเดิม ๆ แน่นอน

ชวนจัดเซตอาหารคู่ “โค้ก” รับสิทธิประโยชน์อีกเพียบ!

บรรดาพ่อค้าแม่ค้าสามารถเข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” โดยนำเมนูสุดเด็ดมาจัดเซตคู่กับเครื่องดื่ม “โค้ก” เพื่อสิทธิประโยชน์ในการทำตลาดฟรี! บอกได้เลยว่าคุ้มสุด ๆ ทั้งร้านค้ามือโปรและร้านค้ามือใหม่

สิทธิพิเศษที่ทางร้านจะได้รับฟรี เมื่อเข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก”

  • คูปองส่วนลดค่าอาหาร 30 บาทสำหรับลูกค้า
  • เครดิตโฆษณาสำหรับใช้โปรโมตบนแอปฯ LINE MAN 
  • พื้นที่สื่อโปรโมตในช่องทางต่าง ๆ จาก “Coca-Cola” LINE MAN และ Wongnai 
  • กรอบตกแต่งเซตเมนูอร่อยซ่ากับ “โค้ก” ให้ร้านค้านำไปใช้โปรโมต
  • กรอบโปรโมตแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก”

เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับ 4 ตำราความสำเร็จ เปลี่ยนร้านขนาดเล็กให้เป็นผู้นำในตลาด เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความรู้ที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่ Wongnai for Business ได้นำมาแชร์ให้ โดยท่านสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับร้านของท่าน ซึ่งรับรองได้เลยว่าจะสามารถช่วยให้สามารถวางแผนการขายของร้านค้าได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับร้านค้าที่สนใจแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” สามารถสมัคร และดูรายละเอียด คลิกที่นี่

เพิ่มเมนูลัดคู่ "โค้ก" บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกที่นี่

สร้างโปรโมชันคู่ "โค้ก" เพื่อนเข้าร่วมแคมเปญ "มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก" บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกเลย