เช็กด่วน! ร้านเราอยู่ตลาดไหน Mass Marketing VS Niche Marketing

ต่างตลาดก็ต่างกลยุทธ์ รู้เอาไว้ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง

โบราณว่าเอาไว้ว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” งั้นรู้เอาไว้ดีกว่า จะได้ไม่พลาด และไม่พลั้ง วันนี้ Wongnai for Business แอบกระซิบให้เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าลองเช็กตลาดของตัวเอง ว่าร้านของตัวเองนั้นอยู่ตลาดไหนกันแน่ระหว่าง Mass Market (แมสมาร์เก็ต) หรือ Niche Market (นีชมาร์เก็ต) เพื่อรู้เท่าทันในการใช้กลยุทธ์การตลาดให้พิชิตใจลูกค้า ปลุกออร์เดอร์โต รายได้ปัง แถมยังประหยัดต้นทุน พร้อมแล้วไปดูกันเลย

Mass (แมส) หรือ Niche (นีช) มีที่มาจากอะไร ? 

ต้องอธิบายกันก่อนว่าจริง ๆ แล้ว คำว่า “Mass” (แมส) กับ “Niche” (นีช) ในทางการตลาดเราจะเอาไว้เรียกกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันนั่นก็คือ Mass Target (แมส ทาร์เก็ต) และ Nich Target (นีช ทาร์เก็ต) กลุ่มเป้าหมายทั้ง 2 นี้ มีความแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของสินค้า และการบริการ ซึ่งทำให้แต่ละกลุ่มเป้าหมาย มีการใช้วิธีการสื่อสารทางการตลาดที่ต่างกันเรียกว่า “Mass Marketing” (แมส มาร์เก็ตติ้ง) และ “Niche Marketing” (นีช มาร์เก็ตติ้ง) โดยคำว่า ‘Mass’ (แมส) มาจากคำว่า ‘มวล’ หรือ‘จำนวนมาก’ ดังนั้น “Mass Marketing” (แมส มาร์เก็ตติ้ง) จึงหมายถึง วิธีการทางการตลาดเพื่อสื่อสารและขายสินค้ากับผู้คนจำนวนมากแบบไม่เฉพาะเจาะจง ส่งผลให้ “Niche Marketing” (นีช มาร์เก็ตติ้ง)  มีความหมายว่าการตลาดที่เลือกกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจะทำการซื้อขายสินค้า และทำการสื่อสารไปยังกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างเฉพาะเจาะจงกับความต้องการที่ตรงจุดให้มากที่สุด ซึ่งต่างกับ “Mass Marketing” (แมส มาร์เก็ตติ้ง) โดยสิ้นเชิงนั่นเอง

อยู่ฝั่งไหน “Mass Marketing” (แมส มาร์เก็ตติ้ง) หรือ “Niche Marketing” (นีช มาร์เก็ตติ้ง) ?

สำหรับฝั่ง ‘Mass Marketing’ (แมส มาร์เก็ตติ้ง) นั้นจะมีรูปแบบดังนี้

  • มีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
  • ใช้ต้นทุนสูง แต่ยิ่งผลิตเยอะต้นทุนจะยิ่งถูกลง
  • ขายได้ในปริมาณมาก แต่กำไรต่อชิ้นน้อย
  • การแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง 
  •  ขายเน้นปริมาณ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ขายง่าย

ส่วนสำหรับฝั่ง ‘Niche Marketing’ (นีช มาร์เก็ตติ้ง) นั้นจะมีรูปแบบดังต่อไปนี้

  • เข้าถึงลูกค้าเพียงบางกลุ่ม แต่สามารถระบุเป้าหมายได้ชัดเจน
  • ต้นทุนต่ำ แต่กำไรต่อชิ้นสูง
  • การแข่งขันในตลาดค่อนข้างต่ำ 
  • เน้นคุณค่า สร้างสินค้าให้ตอบ โจทย์กลุ่มเป้าหมาย

กลยุทธ์ปั้นยอดปัง กำไรงาม! 

สำหรับกลุ่มร้านค้าที่ต้องใช้  “Mass Marketing” (แมส มาร์เก็ตติ้ง) กลุ่มนี้เป็นสินค้าที่ขายง่ายอยู่แล้ว เนื่องจากลูกค้าเยอะ แต่มีการแข่งขันในตลาดสูงมาก โปรโมชันที่ควรใช้ เช่น

  • ลด แลก แจก แถม
  • ซื้อเยอะลดเพิ่ม
  • ซื้อคู่ถูกกว่า

ในทางกลับกันสำหรับกลุ่มร้านค้า  “Niche Marketing” (นีช มาร์เก็ตติ้ง) เป็นกลุ่มที่ต้องเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยจะต้องรู้ลึก รู้จริง ใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกค้า ดังนั้นกลยุทธ์หรือเทคนิคที่ควรปรับใช้คือ

  • ทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจในสินค้า/บริการ
  • สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า
  • หมั่นพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ

ชวนจัดเซตอาหารคู่ “โค้ก” รับสิทธิประโยชน์อีกเพียบ!

บรรดาพ่อค้าแม่ค้าสามารถเข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” โดยนำเมนูสุดเด็ดมาจัดเซตคู่กับเครื่องดื่ม “โค้ก” เพื่อสิทธิประโยชน์ในการทำตลาดฟรี! บอกได้เลยว่าคุ้มสุด ๆ ทั้งร้านค้ามือโปรและร้านค้ามือใหม่

สิทธิพิเศษที่ทางร้านจะได้รับฟรี เมื่อเข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก”

  • คูปองส่วนลดค่าอาหาร 30 บาทสำหรับลูกค้า
  • เครดิตโฆษณาสำหรับใช้โปรโมตบนแอปฯ LINE MAN 
  • พื้นที่สื่อโปรโมตในช่องทางต่าง ๆ จาก “Coca-Cola” LINE MAN และ Wongnai 
  • กรอบตกแต่งเซตเมนูอร่อยซ่ากับ “โค้ก” ให้ร้านค้านำไปใช้โปรโมต
  • กรอบโปรโมตแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก”

เป็นอย่างไรบ้างครับ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความรู้ที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่ทาง Wongnai for Business ได้นำมาแชร์ให้กับเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่สนใจ โดยสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับร้านของท่าน ซึ่งการันตีได้เลยว่าจะสามารถช่วยเพิ่มยอดออร์เดอร์ให้กับเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้อย่างแน่นอน

สำหรับร้านค้าที่สนใจแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” สามารถสมัคร และดูรายละเอียด คลิกที่นี่

เพิ่มเมนูลัดคู่ "โค้ก" บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกที่นี่

สร้างโปรโมชันคู่ "โค้ก" เพื่อนเข้าร่วมแคมเปญ "มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก" บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกเลย