กระตุ้นยอดขายด้วย Word of Mouth Marketing การตลาดแบบปากต่อปาก

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการตลาด หรือการโฆษณาปัจจุบันในบางครั้งยังไม่สามารถสร้างแรงกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความอยากซื้อได้ อาจจะเป็นผลจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างมาประกอบกัน แต่หนึ่งประเด็นสำคัญที่คนรู้สึกกับโฆษณาคือความเฉยชา และเบื่อ ถ้าโฆษณานั้นไม่มีความน่าสนใจมากพอ วันนี้ Wongnai for Business พาไปทำความรู้จักกับ ‘การตลาดแบบปากต่อปาก’ หรือ ‘World of Mouth Marketing’ ที่ใช้พลังของการบอกต่อมาช่วยส่งเสริมให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงเพิ่มยอดการขายให้ปังมากยิ่งขึ้น

เพราะธรรมชาติของคน มักเชื่อ “คนใกล้ตัว” มากกว่า “โฆษณา” 

 การตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth Marketing) เป็นกลยุทธ์การทำการตลาดรูปแบบหนึ่งที่มีการใช้กันมานาน เป็นหลักการตลาดที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและอารมณ์ของคน การที่มีคนบอกต่อให้ฟังว่า ร้านนี้ดีอย่างไร อาหารอะไรอร่อย ทำไมถึงน่าไป บรรยากาศดีอย่างงู้น อย่างงี้ แล้วพูดต่อๆ กัน จะทำให้ร้านอาหารเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง เพราะธรรมชาติของคนเรา มักเชื่อ ‘คนใกล้ตัว’ มากกว่า ‘โฆษณา’ 

การตลาดแบบปากต่อปาก จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูง แถมยังประหยัดงบประมาณ เพียงแต่ต้องอาศัย ‘การสร้างแบรนด์ (Branding)’ ที่ดีมาก่อนในระดับหนึ่ง ดังนั้นร้านอาหารใดที่อยากใช้การตลาดแบบปากต่อปาก จะต้องอาศัยการทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยเพื่อสร้างแบรนด์ของตนเองให้แข็งแกร่งมากขึ้นด้วย

‍

1. สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

องค์ประกอบต่าง ๆ ของร้านอาหารต้องเอื้อในการดึงดูดกลุ่มคน ให้รู้สึกประทับใจจนอยากแชร์ต่อ บอกต่อ หรือมอบความประทับใจเหล่านี้ให้กับคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะจากรสชาติของอาหารที่อร่อยจนต้องบอกต่อ การบริการที่ดีมากจนอยากบอกต่อ หรือมีโปรโมชันที่คุ้มสุด ๆ จนอยากบอกต่อ  เช่น

• กระเพราหมูกรอบร้านนี้อร่อยมาก การปรุงรสโดยผัดมาได้รสชาติกำลังดี 
• พนักงานร้านนี้ให้คำแนะนำดีมาก มีมารยาท เป็นมิตร และอาหารก็อร่อยจริง
• โปรโมชันร้านนี้คุ้มมาก เพียงซื้อข้าวกล่องก็ได้ “โค้ก” แล้วในแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” บอกเลยว่าอิ่มอร่อยได้ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ในราคาที่คุ้มสุด ๆ 

ทั้งนี้ ร้านต้องมีมาตรฐานในการให้บริการและมาตรฐานคุณภาพ เพื่อไม่สร้างความผิดหวังให้ลูกค้าใหม่ 

‍

เริ่มเลย ! เข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” วางรากฐานให้แน่น สร้างความประทับใจของลูกค้าให้อยู่หมัด แล้วไปยังขั้นตอนต่อไปกันเลย !

‍

2. สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์หรือร้านค้าของตัวเอง

เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมลูกค้า หรือแม้กระทั่งตัวเราเองถึงสามารถซื้อสินค้าในราคาแพง ได้โดยที่ไม่เสียดายเงินในทางกลับกันยังมีสินค้าที่ถูกกว่านี้หลายร้อยเท่าพันเท่า แต่เขากลับเสียดายต่อเงินที่ต้องเสียไป โดยคำตอบของสิ่งเหล่านี้ก็คือ “ความรู้สึกคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป” โดยการสร้างคุณแค่ของแบรนด์สามารถแบ่งออกเป็น 4 ทาง คือ

• คุณค่าที่ได้รับจากอรรถประโยชน์ของสินค้า : ลูกค้าซื้อสินค้าแล้วรู้สึกคุ้มค่า สมกับที่เราทำการโฆษณา
•  คุณค่าที่ได้รับจากการบริการที่เป็นพิเศษ : ให้ลูกค้าได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากการซื้อสินค้าไป อาจจะเป็นการตอบแทนลูกค้าที่อุดหนุน เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเขาคือคนพิเศษ
• คุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากภาพลักษณ์ของสินค้า : ต้องเป็นภาพลักษณ์ที่ส่งเสริมลูกค้า เมื่อได้ใช้บริการ หรือซื้อสินค้านี้แล้ว เกิดความรู้สึกในมิติต่าง ๆ
• คุณค่าที่แสดงถึงภาพลักษณ์ตัวตนของลูกค้า : " ความภูมิใจ " ที่ลูกค้าได้มีการใช้สินค้า หรือได้รับบริการนี้อยู่

‍

3. สร้างความผูกผันระหว่างลูกค้า และร้านอาหาร

เมื่อแบรนด์ หรือร้านอาหารมีคุณค่ามากพอ โดยส่งเสริมลูกค้าให้มีประสบการณ์ที่ดีกับร้านมากขึ้นเรื่อย ๆ จะเกิดความผูกพันกับตัวร้าน เจ้าของร้าน หรืออาจจะเป็นพนักงานในร้าน ทำให้แนวโน้มที่ลูกค้าจะพูดถึงร้านบ่อย ๆ แล้วเกิดเป็นการตลาดแบบปากต่อปากก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย โดยหลักการสร้างความผูกพันธ์ สามารถทำได้ ดังนี้

• ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า
• พัฒนาพนักงาน
• มอบประสบการณ์ที่พิเศษส่วนบุคคล
• เปิดช่องทางการสื่อสารให้หลากหลาย
• รับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า
• ไม่ละทิ้งในมาตรฐาน

‍

ใช้การ “รีวิว” ให้เป็นประโยชน์ ช่วยโปรโมตร้าน 

 การใช้พลังรีวิวให้เป็นประโยชน์ เป็นการต่อยอดจาก “การตลาดแบบปากต่อปาก” เพราะลูกค้ามักจะหารีวิวอ่านเกี่ยวกับร้าน ต้องการรู้ก่อนว่า อาหารอร่อยหรือไม่ บริการเป็นอย่างไร เพื่อให้แน่ใจได้ว่า เมื่อมาสั่งอาหารหรือมากินอาหารที่ร้านจะไม่ผิดหวัง โดยวิธีนี้เป็นการทำการตลาดที่ทำได้ทุกร้านและ โดยไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ ทำได้ง่ายแต่ให้ผลลัพธ์สูง โดยช่องทางสำหรับให้เปิดร้านรีวิวโปรโมตร้านมีดังนี้ 

• สร้างโปรไฟล์ร้านบนโซเชียลเมียเดียในช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook Instagram Line Tiktok เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าค้นหาได้ง่ายขึ้น
• สร้างโปรไฟล์ร้านบน Wongnai แพลตฟอร์มรีวิวอาหารที่อันดับ 1 ของคนไทย

‍

ชวนจัดเซตอาหารคู่ “โค้ก” รับสิทธิประโยชน์อีกเพียบ!

พ่อค้าแม่ค้าสามารถเข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” โดยนำเมนูสุดเด็ดมาจัดเซตคู่กับเครื่องดื่ม “โค้ก” เพื่อสิทธิประโยชน์ในการทำตลาดฟรี! บอกได้เลยว่าคุ้มสุด ๆ ทั้งร้านค้ามือโปร และร้านค้ามือใหม่

สิทธิพิเศษที่ทางร้านจะได้รับฟรี เมื่อเข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก”

• คูปองส่วนลดค่าอาหาร 30 บาทสำหรับลูกค้า
• เครดิตโฆษณาสำหรับใช้โปรโมตบนแอปฯ LINE MAN 
• พื้นที่สื่อโปรโมตในช่องทางต่าง ๆ จาก “Coca-Cola” LINE MAN และ Wongnai 
• กรอบตกแต่งเซตเมนูอร่อยซ่ากับ “โค้ก” ให้ร้านค้านำไปใช้โปรโมต
• กรอบโปรโมตแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก”

‍

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ ‘การตลาดแบบปากต่อปาก’ หรือ ‘World of Mouth Marketing’  เรียกได้ว่าเป็นความรู้สำหรับร้านอาหารที่น่าสนใจมาก ๆ ที่ Wongnai for Business ได้นำมาแชร์ให้ โดยท่านสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับร้านของท่านรับรองได้เลยว่าจะช่วยให้ท่านสามารถวางแผนการขายให้ร้านของท่านสามารถเรียกยอดขาย เพิ่มยอดออร์เดอร์ได้ปังขึ้นอย่างแน่นอน

‍

สำหรับร้านค้าที่สนใจแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” สามารถสมัคร และดูรายละเอียด คลิกที่นี่

เพิ่มเมนูลัดคู่ "โค้ก" บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกที่นี่

สร้างโปรโมชันคู่ "โค้ก" เพื่อนเข้าร่วมแคมเปญ "มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก" บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกเลย