How To เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว อาชีพคลาสสิกที่ไม่มีวันตาย

เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าอยากอยู่ให้ยาวนานแบบไม่มีวันตาย ต้องมี Wongnai POS ช่วยทั้งรับออร์เดอร์ คิดเงิน และรายงานยอดขาย

เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ในเศรษฐกิจยุค “ข้าวยากหมากแพง” แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายไม่น้อย เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นอาชีพสุดคลาสสิกที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัยไม่มีวันตาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย เพราะราคาต้นทุนวัตถุดิบต่าง ๆ ก็พากันพุ่งขึ้นไม่มีหยุด อีกทั้งผู้บริโภคก็ต้องคิดเยอะขึ้นว่าเงินที่ใช้ไปนั้นคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมในทุกด้านก่อนจะเริ่มเปิดร้านจริง ๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าถ้าจะให้ดีก็ต้องมีตัวช่วยอย่าง ระบบ Wongnai POS ที่ครบครันตั้งแต่การช่วยรับออร์เดอร์ สั่งอาหาร รายงานยอดขาย พร้อมทั้งสามารถพิมพ์ใบเสร็จและใบออร์เดอร์ได้ในตัว

1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

เพราะถ้ารู้แล้วว่าจะขายให้ใคร คุณก็จะได้คำตอบเพิ่มว่า แล้วจะขายที่ไหน เมนูควรจะมีอะไรบ้าง และราคาเท่าไหร่ที่ลูกค้าสามารถจ่ายไหว เพื่อนำไปต่อยอดจำลองว่าแล้วในแต่ละวันต้องขายได้กี่ชาม กี่บาท เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน และได้กำไรตามที่ต้องการ

2. คำนวนต้นทุนให้รอบด้าน

อย่าลืมว่าต้นทุนไม่ได้มีแค่ค่าวัตถุดิบอาหาร แต่ยังรวมถึงค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทางไปซื้อของ และค่าแรงพนักงาน หรือสิ่งที่เรียกว่าต้นทุนแฝงด้วย เพื่อให้เราสามารถตั้งราคาขายที่มี Margin หรือช่องว่างมากพอที่จะนำไปใช้ทำโปรโมชันเสริมในโอกาสอื่น ๆ ในอนาคตได้อีก เพราะถ้าขาย ๆ ไปแล้วรู้สึกว่าเข้าเนื้อหรือไม่คุ้มทุน พอจะมาขึ้นราคาภายหลังลูกค้าประจำก็อาจจะหนีหายไปได้

3. ตั้งราคาขายให้น่าสนใจ

ราคาค่าอาหารที่ดีที่สุดคือราคาที่สัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งเป้าเอาไว้ รวมถึงสอดคล้องกับคุณภาพของสินค้าและบริการ ที่สำคัญต้องเผื่อช่องว่างไว้สำหรับทำการตลาดด้วย โดยอาจจะใช้หลักจิตวิทยาง่าย ๆ เข้ามาช่วยให้ราคาดูคุ้มค่าในสายตาผู้บริโภคมากขึ้น เช่น การลงท้ายด้วยเลขเก้า การซื้อสองชิ้นถูกกว่า หรือว่าการแถมอะไรสักอย่างเพิ่มเติม ไปจนถึงการทำราคาพิเศษเฉพาะสมาชิกเท่านั้น

4. ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

แม้ว่าดูเผิน ๆ แล้วก๋วยเตี๋ยวหลาย ๆ ร้านอาจจะดูเหมือน ๆ กันไปหมด ดังนั้นเราต้องหาจุดเด่นของเราให้ได้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของน้ำซุปที่อาจจะแปลกใหม่หรือมีให้เลือกหลากหลายกว่าที่อื่น ๆ  ขนาดของลูกชิ้นหรือเนื้อสัตว์ในชามไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่กว่าปกติก็ถือว่านำมาเป็นจุดขายได้ หรือแม้แต่ตัวเลือกของเส้นและท็อปปิ้งที่สามารถใส่ได้ก็สามารถเป็นจุดเด่นที่ช่วยให้คนจดจำได้เหมือนกัน

5. ใส่ใจวัตถุดิบและการบริการ

อาหารอร่อยก็ต้องคู่กับการบริการที่ดี ออร์เดอร์ไม่ควรผิดพลาดหรือตกหล่น อาหารต้องรอไม่นาน วัตถุดิบที่ใช้ก็ต้องสดใหม่และสะอาด รับรองว่าลูกค้าไม่มีทางหนีหายไปไหน ยิ่งถ้ามีระบบสมาชิกหรือ Wongnai Reward Card ช่วยเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้เป็นลูกค้าประจำ ช่วยเพิ่มโอกาสในการกลับมาใช้บริการซ้ำได้ง่ายยิ่งขึ้น

6. เตรียมระบบบริหารจัดการร้านให้พร้อม

การเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าอยากอยู่ให้ยาวนานแบบไม่มีวันตาย ต้องมี Wongnai POS ช่วยทั้งรับออร์เดอร์ คิดเงิน ไปจนถึงรายงานยอดขายเชิงลึก เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปวางแผนพัฒนาธุรกิจและทำการตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เพราะยิ่งเรามีข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคที่ครบถ้วนมากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถมองเห็นจุดเด่นและจุดที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติมได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นร้านก๋วยเตี๋ยวหรือร้านอาหารที่อยากจะติดตลาดโดยเร็ว ก็ควรจะเริ่มต้นใช้ระบบจัดการร้านอาหารตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน

เห็นแบบนี้แล้ว ใครที่กำลังเล็งว่าจะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการเตรียมระบบบริหารจัดการร้านอาหารที่มีประสิทธิภาพ สำหรับเจ้าของร้านที่สนใจ Wongnai POS รุ่นใหม่ คลิกที่นี่ เพื่อสอบถามโปรโมชันและให้พนักงานติดต่อเลย