Wongnai POS VS StoreHub POS ระบบไหนที่ลงตัวกับร้านอาหารของคุณ?

ระหว่าง Wongnai POS กับ StoreHub POS ระบบไหนเหมาะกับร้านค้า หรือร้านอาหาร เลือกใช้ให้ถูก ต่อยอดกำไรได้จริง!

ระบบจัดการร้าน (POS) ที่มักจะมาในรูปแบบของ ‘แคชเชียร์’ ถือเป็นพระเอกของการทำธุรกิจค้าขายต่าง ๆ ด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชั่นบริหารร้านที่ถูกออกแบบมาอย่างทันสมัย ผ่านการดึงความฉลาดแม่นยำของเทคโนโลยีออกมาใช้ เพื่อทุ่นแรงและลดข้อผิดพลาดให้กับเจ้าของกิจการและพนักงานในร้าน

ณ ปัจจุบันนี้ มี​ POS เจ้าใหม่ ๆ ลงตลาดมากมายเต็มไปหมด ต่างเจ้าต่างพัฒนาจุดเด่นของตนแตกต่างกันออกไปเพื่อจะได้ตอบโจทย์การใช้งานของกิจการในแต่ละประเภทมากที่สุด ซึ่งหากพูดในแง่ของระบบจัดการร้านอาหาร ก็จะต้องนึกถึงฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการให้บริการ ดูแลภาพรวมร้านอาหาร เพื่อการบริการที่มืออาชีพมากขึ้น

สำหรับเจ้าของร้านอาหารที่กำลังเลือกเฟ้นหา POS อยู่ วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบฟีเจอร์และการใช้งานของ Wongnai POS กับ StoreHub POS ว่ามีจุดเด่นอย่างไรบ้าง แล้วระบบไหนเหมาะกับร้านอาหาร ระบบไหนเหมาะกับร้านค้ากว่า ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

จุดเด่นของ Wongnai POS

Wongnai POS เป็นระบบจัดการร้านออกแบบมาเพื่อร้านอาหารโดยเฉพาะ มีฟีเจอร์ครบครันสำหรับร้านอาหารยุคใหม่ เพื่อช่วยให้ร้านอาหารทำงานได้อย่างแม่นยำ มีระบบแบบแผน และเพิ่มโอกาสต่อยอดให้ร้านโตขึ้น พร้อมลูกเล่นเด็ด ๆ อย่างการเชื่อมต่อ LINE MAN Delivery โดยตรง ทั้งในแง่ของการรับออร์เดอร์อัตโนมัติ และปรับเมนู สร้างโปรโมชั่นได้ในเครื่องเดียว พร้อมทั้งช่วยร้านอาหารสร้างพื้นที่สื่อบนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มนักรีวิวอย่าง Wongnai เพื่อยกระดับร้านอาหารให้ดูทันสมัยและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้มากขึ้น

จุดเด่นของ StoreHub POS

StoreHub POS ระบบจัดการหน้าร้านของร้านค้า ที่มีฟังก์ชันการบริหารร้านที่ผสานธุรกิจออฟไลน์และออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน โดดเด่นไปด้วยฟีเจอร์จัดการสต๊อกสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนับและตัดสต๊อกอัตโนมัติ การบริหารสต๊อกระหว่างสาขา หรือแม้กระทั่งโอนถ่ายสินค้าระหว่างสาขา รวมถึงการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม E-commerce ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายสื่อสารกันง่ายขึ้น 

ตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์ Wongnai POS vs StoreHub POS

หากวิเคราะห์จากตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์แล้ว จะเห็นได้ว่าทั้ง Wongnai POS และ StoreHub POS เป็นระบบจัดการร้านที่มีฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับการบริหารกิจการทั้งคู่ ทั้งในแง่ของ

  • การจัดรายการสินค้า (E-Menu)
  • รายงานยอดขาย​ (Sales Report)
  • จัดการสต๊อก (Stock Management)
  • จัดการ Account พนักงาน (Account & Security)
  • ระบบสมาชิกลูกค้า (CRM)
  • การสร้างโปรโมชั่นหน้าร้าน

แต่ถ้าพูดในแง่ของประเภทการใช้งาน เห็นได้ชัดว่า Wongnai POS จะเหมาะกับการธุรกิจร้านอาหารมากกว่า ทั้งในแง่ของการให้บริการลูกค้า งานหลังครัว และการเชื่อมต่อฐานผู้บริโภคยุคใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านฟีเจอร์ร้านอาหารต่าง ๆ เช่น

  • การรับออร์เดอร์จาก LINE MAN Delivery
  • การปรับแต่งเมนูและโปรโมชันบน LINE MAN Delivery
  • การโปรโมทร้านผ่านแพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหาร Wongnai 

ในขณะเดียวกัน StoreHub POS จะเน้นไปที่ฟีเจอร์การบริหารร้านค้าออนไลน์หรือธุรกิจ E-Commerce ซึ่งเหมาะกับธุรกิจร้านค้าที่มีหลายสาขาและต้องการบริหารชุดข้อมูลเป็นจำนวนมาก

ราคาซอฟต์แวร์และตัวเครื่อง

ราคา Wongnai POS

Wongnai POS Android

  • รุ่น Mini ราคาเพียง 11,900.- (ปกติ 18,900.-)
  • รุ่น 1 จอ ราคาเพียง 13,900.- (ปกติ 21,900.-)
  • รุ่น 2 จอ ราคาเพียง 15,900.- (ปกติ 23,900.-)
  • ซอฟต์แวร์ ราคาวันละ 9 บาท

Wongnai POS iPadOS

  • แพ็กเกจอุปกรณ์ iPad OS พร้อมขาตั้งเพียง 13,900 บาท
  • ซอฟต์แวร์ เริ่มต้นเดือนละ 1,000 บาท

ราคา StoreHub POS

  • แพ็กเกจซอฟต์แวร์เริ่มต้น ราคา 1,250 บาทต่อเดือน
  • แพ็กเกจซอฟต์แวร์ขนาดกลาง ราคา 2,500 บาทต่อเดือน
  • แพ็กเกจซอฟต์แวร์ระดับโปร ราคา 4,800 บาทต่อเดือน

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับความแตกต่างของ Wongnai POS และ StoreHub POS ซึ่งทั้งสองระบบก็มีฟีเจอร์และฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป และต่างออกแบบมาเพื่อยกระดับการทำงานของกิจการที่แตกต่างกัน ทางเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เจ้าของร้านอาหารตัดสินใจเลือกระบบ POS ที่ตอบโจทย์ของกิจการได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย

เจ้าของร้านสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Wongnai POS เพิ่มเติมได้ ที่นี่ หรือ เริ่มพูดคุยกับพนักงานเพื่อสั่งซื้อได้เลย