.jpg)
ซื้อวัตถุดิบมายังไม่ทันได้นำไปปรุงอาหาร ก็เริ่มมีกลิ่น หรือขึ้นราแล้ว ทำอย่างไรดี?
ฤดูฝนไม่ได้มาพร้อมแค่ความชุ่มฉ่ำ แต่ยังนำมาซึ่งภัยร้ายต่อธุรกิจที่มองไม่เห็น นั่นคือ "ความชื้นสูง" เป็นแหล่งเพาะเชื้อรา และแบคทีเรีย ที่จะทำให้วัตถุดิบ และอาหารในร้านคุณเน่าเสียเร็วขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว หากเก็บอาหารผิดวิธีจะส่งผลต่อการขาดทุน และเสี่ยงต่อการส่งมอบอาหารที่ไม่ปลอดภัยให้ลูกค้า ซึ่งจะทำให้ร้านเสียชื่อเสียงได้ง่าย ๆ ดังนั้น การจัดการอาหาร และวัตถุดิบให้ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ร้านค้าต้องทำทันที มาดูกันว่าควรเก็บรักษาอย่างไร
สำหรับวัตถุดิบแห้งทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร แป้ง น้ำตาล หรือเครื่องเทศต่าง ๆ ในหน้าฝนนี้ความชื้นในอากาศสูงมาก ไม่ควรปล่อยให้ของเหล่านี้สัมผัสอากาศโดยตรง เพราะจะชื้น และจับตัวเป็นก้อน หรือที่ร้ายกว่าคือ ขึ้นรา และมีแมลงเข้าไปได้ง่าย ๆ
ควรใช้กล่องที่มีฝาปิดแน่น หรือถุงซิปล็อกคุณภาพดี เพื่อช่วยรักษาคุณภาพ รสชาติ และยืดอายุ วัตถุดิบให้สดใหม่พร้อมใช้ ไม่ต้องทิ้งให้ขาดทุน
อาหารสดจะมีการระเหยความชื้นออกมาตลอดเวลา และไอความชื้นจะไปเกาะที่วัตถุดิบแห้งทันที ทำให้ชื้น แฉะ และขึ้นราได้เร็วมาก เหมือนเป็นการติดเชื้อความชื้นจากกัน
ควรจัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน แยกตู้ แยกชั้น ระหว่างของสดที่ต้องการความเย็น กับของแห้งที่ต้องการความแห้ง เพื่อป้องกันการเน่าเสียของวัตถุดิบทั้งสองประเภท
เมื่อทำอาหารเสร็จแล้ว การรีบนำอาหารที่ยังร้อนจัดใส่ตู้เย็นทันที คือการเร่งให้เกิดการเน่าเสีย เพราะความร้อนจะทำให้เกิด ไอน้ำเกาะเป็นหยดน้ำในภาชนะ หรือในตู้เย็นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหยดน้ำเป็นตัวเร่งให้เชื้อราเติบโตทันที
ควรรอให้อาหารคลายความร้อนลงจนเย็นตัวก่อน จากนั้นจึงค่อยตักใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิดแล้วนำเข้าตู้เย็น การทำตามขั้นตอนเล็ก ๆ นี้จะช่วยควบคุมความชื้นภายใน และยืดอายุอาหารที่ปรุงสำเร็จแล้วให้ปลอดภัย และอยู่ได้นานขึ้น
ผักผลไม้ส่วนใหญ่มักจะเน่าเสียเร็วในหน้าฝน เพราะความชื้นที่สะสมอยู่ภายในถุง หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ วิธีการแก้ปัญหาคือ การลดความชื้นส่วนเกินที่มากับผักผลไม้
ก่อนนำเข้าตู้เย็น ควรใช้กระดาษทิชชู่สำหรับงานครัว หรือกระดาษหนังสือพิมพ์สะอาด ห่อหุ้มผักแต่ละชนิดไว้ก่อนใส่ในกล่อง จะช่วยให้กระดาษ ดูดซับความชื้น ที่ผักปล่อยออกมา ทำให้อาหารไม่แฉะ ไม่ชื้น และช่วยให้ผักผลไม้ คงความกรอบ และสดใหม่ ได้ยาวนานกว่าการเก็บแบบปกติ
และสิ่งสำคัญที่ร้านไม่ควรมองข้ามคือ การจัดระเบียบ ตรวจสอบวัตถุดิบ และทำความสะอาดพื้นที่จัดเก็บอย่างสม่ำเสมอ ควรมีการตรวจสอบวัตถุดิบทุกสัปดาห์ เพื่อสังเกตอาหารที่อาจเริ่มขึ้นรา หรือใกล้หมดอายุ แล้วรีบใช้หรือกำจัดทิ้งไปทันที
นอกจากนี้ การจัดวางวัตถุดิบในตู้เย็นต้องให้ มีช่องว่างให้อากาศเย็นถ่ายเทได้ทั่วถึง และที่สำคัญที่สุดคือต้อง หมั่นเช็ดหยดน้ำที่เกาะตามผนังหรือพื้นตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาระดับความเย็นให้คงที่ และทำลายแหล่งเพาะเชื้อโรค ซึ่งจะเป็นการยืดอายุความสดใหม่ของวัตถุดิบให้ปลอดภัยที่สุด การปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเหล่านี้คือการ รักษามาตรฐาน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว