อยากมีโลโก้แบรนด์ ต้องรู้สิ่งนี้ก่อนจดสิทธิ์!

โลโก้สวยแค่ไหน แต่ถ้า “ไม่จดสิทธิ์” ก็อาจโดนเลียนแบบได้! รู้ไว้ก่อนสาย วิธีออกแบบโลโก้ให้จดทะเบียนได้ ปลอดภัย และต่อยอดธุรกิจได้จริง

ทุกวันนี้ “โลโก้” คือสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของการสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะในธุรกิจร้านอาหาร เพราะโลโก้ไม่ใช่แค่ภาพหรือชื่อที่สวยงามเท่านั้น แต่คือ “เอกลักษณ์” ที่ทำให้ลูกค้าจดจำได้ และยังสะท้อนตัวตนของแบรนด์ในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านจำนวนไม่น้อย ละเลยขั้นตอนสำคัญหลังจากออกแบบโลโก้ นั่นคือ “การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า” ซึ่งหากไม่จดสิทธิ์ไว้แต่แรก ต่อให้ทางร้านเป็นคนคิด ออกแบบ หรือใช้โลโก้นั้นมาก่อน ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำไปใช้ได้ และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เช่น มีร้านอื่นใช้โลโก้คล้ายกัน หรือเปิดแฟรนไชส์โดยไม่ได้รับอนุญาต ร้านก็จะ ไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้อง หรือเรียกร้องความเสียหายได้ตามกฎหมาย

ทำไมต้องจด “เครื่องหมายการค้า”

การจดทะเบียนคือการ “ยืนยันสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ” อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยผู้ที่จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายแต่เพียงผู้เดียว และยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องหมายนั้นในเชิงธุรกิจ เช่น การต่อยอดเป็นแฟรนไชส์ หรือการให้เช่าสิทธิ์การใช้เครื่องหมาย เพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง

วิธีออกแบบโลโก้ให้จดทะเบียนได้

1. โลโก้ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

เลือกใช้ชื่อ หรือภาพที่ “เฉพาะเจาะจง” และ “ไม่สื่อความหมายหรือบ่งบอกลักษณะสินค้าโดยตรง” เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายและดูมีความแตกต่างจากคู่แข่ง เช่น

ตัวอย่างโลโก้หรือชื่อที่จดทะเบียนได้

  • “Oh! Juice” → มีการตั้งชื่อที่มีความเฉพาะและสร้างการจดจำ
  • “พันธุ์ไทย” → มีคอนเซ็ปต์เฉพาะตัว ไม่ได้อธิบายตรง ๆ ถึงประเภทสินค้าที่ขาย

ตัวอย่างที่จดทะเบียนไม่ได้

  • “ร้านอร่อยข้าวมันไก่” → ใช้คำทั่วไปและคำบรรยายลักษณะสินค้า
  • “Best Coffee” → เป็นชื่อบรรยายสินค้าโดยตรง ไม่สร้างภาพลักษณ์เฉพาะตัว

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงภาพสัญลักษณ์ทั่วไป เช่น ชาม ตะเกียบ หม้อ เว้นแต่จะมีการดัดแปลงให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน

2. ไม่มีลักษณะ “ต้องห้าม”

เครื่องหมายการค้าที่จะ “ไม่สามารถจดทะเบียนได้” หากมีลักษณะเข้าข่ายดังต่อไปนี้

  • มีข้อความ หรือรูปภาพที่ขัดต่อศีลธรรม กฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย เช่น คำหยาบ ภาพลามก หรือข้อความที่อาจสร้างความไม่สงบในสังคม
  • ใช้ชื่อบุคคล องค์กร หรือสัญลักษณ์ทางราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ชื่อหน่วยงานรัฐ ตราครุฑ ธงชาติ หรือสัญลักษณ์ของรัฐอื่น ๆ
  • มีภาพแผนที่ หรือภาพแสดงสถานที่ทางภูมิศาสตร์ เช่น ชื่อประเทศ จังหวัด อำเภอ เป็นต้น
  • มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้ชื่อเทพเจ้า พระสงฆ์ หรือสัญลักษณ์ทางศาสนาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า

3. ไม่เหมือน หรือคล้ายกับเครื่องหมายของบุคคลอื่น

ก่อนยื่นจดทะเบียน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโลโก้หรือชื่อร้านของคุณ ไม่เหมือน หรือใกล้เคียงกับเครื่องหมายที่มีอยู่แล้วในตลาด เพราะหากเครื่องหมายคล้ายกับของผู้อื่น อาจถูกปฏิเสธการจด หรือในกรณีที่จดสำเร็จไปแล้ว ยังอาจถูกฟ้องร้องให้เพิกถอนได้ภายหลัง การตรวจสอบล่วงหน้าจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อป้องกันการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น

สิทธิประโยชน์เมื่อจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า

  1. ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
    มีสิทธิ์ใช้เครื่องหมายนั้นแต่เพียงผู้เดียวในสินค้า หรือบริการที่จดทะเบียนไว้
  2. สามารถใช้สัญลักษณ์ (®)
    เพื่อแสดงว่าเครื่องหมายนั้นได้รับการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว โดย “®” มาจากคำว่า Registered
  3. ได้รับการคุ้มครองนานถึง 10 ปี
    สามารถ “ต่ออายุได้ทุก ๆ 10 ปี” ทำให้สิทธิ์ของเจ้าของยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง
  4. ปกป้องแบรนด์จากการลอกเลียนแบบ
    หากมีผู้ใดนำโลโก้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้
  5. เพิ่มมูลค่าทางธุรกิจในอนาคต
    การมีเครื่องหมายการค้าที่ถูกต้องช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นพื้นฐานสำคัญของการขยายกิจการ เช่น การสร้างแฟรนไชส์ หรือขยายสาขา

เมื่อออกแบบโลโก้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้ามคือ “การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า” เพื่อยืนยันสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การจดเครื่องหมายการค้าไม่เพียงช่วยป้องกันการลอกเลียนแบบ หรือการนำโลโก้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่ยังเป็นการคุ้มครองแบรนด์ของคุณในระยะยาว ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโลโก้ที่สร้างมาด้วยความตั้งใจจะเป็น “เอกลักษณ์ของแบรนด์” อย่างแท้จริง

📍 สามารถยื่นจดได้ที่: กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทุกจังหวัด หรือช่องทางออนไลน์ https://www.ipthailand.go.th

สนใจเริ่มต้นเปิดร้านบน LINE MAN 👉🏻 คลิกเลย

📲 ติดตามข่าวสารและเทคนิคเพิ่มยอดขาย ที่พ่อค้าแม่ค้า LINE MAN ไม่ควรพลาด ได้ที่กระดิ่งแจ้งเตือนบนแอปฯ Wongnai Merchant App 👉🏻 คลิกที่นี่

บทความแนะนำเพิ่มเติม