Fixed Cost ต้นทุนสำคัญ ที่คนเริ่มทำธุรกิจต้องรู้
ขายดีแต่กำไรไม่เพิ่ม? พารู้จัก ‘Fixed Cost’ หรือ ‘ต้นทุนคงที่’ ตัวช่วยคำนวณจุดคุ้มทุน วางแผนร้าน และเพิ่มกำไรแบบง่าย ๆ
ในโลกของการทำธุรกิจร้านค้า ทุกคนก็หวังอยากเห็นกำไรที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่เชื่อไหมว่าหลายร้านที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่พอสิ้นเดือนมานั่งคำนวณกลับพบว่า กำไรไม่มากเท่าที่คิด หรือบางครั้งถึงขั้นขาดทุน ทั้ง ๆ ที่ยอดขายดูสวยงาม
หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือ ไม่รู้ และไม่คำนวณ “ต้นทุนคงที่” (Fixed Cost) ให้ชัดเจน ทำให้ไม่รู้จุดคุ้มทุน ไม่รู้ว่าต้องขายเท่าไหร่ถึงจะไม่ขาดทุน และวางแผนต่อยอดได้ยาก
วันนี้ LINE MAN จึงมาสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ กับ ความสำคัญของ “ต้นทุนคงที่” พร้อมตัวอย่าง ที่พ่อค้าแม่ค้าสามารถนำไปใช้คำนวณกับร้านตัวเองได้ทันที เก็บไว้เป็นตัวช่วยวางแผนธุรกิจได้เลย!
ต้นทุนคงที่ คืออะไร?
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) หมายถึง ค่าใช้จ่ายประจำที่ร้านต้องจ่ายในจำนวนเท่าเดิมทุกเดือน ไม่ว่าร้านจะมียอดขายมาก หรือน้อยก็ตาม ตัวอย่างเช่น
ทำไมการรู้ต้นทุนคงที่จึงสำคัญ?
1. คำนวณจุดคุ้มทุน (Break-even Point)
ได้อย่างแม่นยำ การรู้ต้นทุนคงที่ช่วยให้คำนวณได้ว่าต้องขายกี่ชิ้น กี่ออเดอร์ หรือทำยอดขายเท่าไหร่จึงจะไม่ขาดทุน
ตัวอย่างการคำนวณ
หากกำไรต่อชิ้นอยู่ที่ 50 บาท ต้องขายอย่างน้อย 600 ชิ้นต่อเดือน เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน (30,000 ÷ 50 = 600)
2. วางแผนการขยายธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อต้นทุนคงที่ชัดเจน จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าควรลงทุนเพิ่ม หรือควรรอเวลา และปรับยอดขายก่อน
3. เพิ่มกำไรได้อย่างรวดเร็วเมื่อยอดขายโตขึ้น
ข้อดีของต้นทุนคงที่ คือ เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้นแต่ต้นทุนคงที่ยังเท่าเดิม กำไรจะเพิ่มขึ้นทันที
ตัวอย่าง
การรู้และคำนวณ “ต้นทุนคงที่” อย่างแม่นยำ ไม่เพียงช่วยให้คุณมองเห็นจุดคุ้มทุน และวางแผนขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจ แต่ยังทำให้การบริหารร้านมีทิศทางชัดเจน ลดความเสี่ยงจากการขาดทุน และเพิ่มโอกาสทำกำไรเมื่อยอดขายเติบโต ที่สำคัญการควบคุมต้นทุนคงที่ให้อยู่ในระดับเหมาะสมจะช่วยให้ร้านมีความยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์และเดินหน้าสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นคง
สนใจเริ่มต้นเปิดร้านบน LINE MAN 👉🏻 คลิกเลย
📲 ติดตามข่าวสารและเทคนิคเพิ่มยอดขาย ที่พ่อค้าแม่ค้า LINE MAN ไม่ควรพลาด ได้ที่กระดิ่งแจ้งเตือนบนแอปฯ Wongnai Merchant App 👉🏻 คลิกที่นี่
บทความแนะนำเพิ่มเติม