6 ทักษะแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องมีในปี 2022 อยากขายดีต้องมีทักษะเหล่านี้

ในปัจจุบัน มีโอกาสสำหรับคนค้าขายมากมาย เราสามารถนำสินค้าลงขายบนโลกออนไลน์ได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งก็มาพร้อมรูปแบบการค้าขายแบบใหม่ ๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องปรับตัวตาม เพราะค่าทักษะการขายแบบเดิม ๆ อาจใช้ได้ผลไม่เพียงพอแล้วในปี 2022 วันนี้ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องมีทักษะอะไรบ้าง? ถ้าอยากขายดี ออร์เดอร์รัว ยอดขายพุ่งอยู่เรื่อย ๆ

รวม 6 ทักษะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องมีในยุคนี้มาให้ มีอันไหนที่ต้องฝึกเพิ่มเติมบ้าง? ไปดูกันเลย!

1. ทักษะการบริการจัดการร้าน-จัดการสินค้า

ทักษะที่หลาย ๆ คนมักมองข้าม โดยเฉพาะร้านที่มีสินค้าหลากหลายหรือเป็นร้านที่ขายของสด ทักษะการจัดการร้าน และสินค้า เป็นอีกทักษะที่สำคัญอย่างยิ่ง แล้วทักษะจัดการร้านและสินค้า ต้องทำอะไรบ้าง?

ทักษะการจัดการจัดการร้าน และสินค้า รวมตั้งแต่..

• การเลือกสินค้ามาค้า และมาสต๊อกเตรียมขาย สินค้าไหนตลาดต้องการ สินค้าไหนที่สามารถขายควบคู่ไปด้วยกันได้ หรือการหาสินค้าที่ทำกำไรได้สูง ฯลฯ
• การจัดเรียงสินค้าหน้าร้าน หรือการจัดหมวดหมู่สินค้าบนหน้าร้านออนไลน์ เช่น การจัดหน้าร้านบน LINE MAN MART การเรียงสินค้าบน Instagram ฯลฯ 
• ทักษะการทำสต๊อก หรือจัดการสินค้าคงคลัง เช่น สินค้าไหนกำลังจะหมดอายุ สินค้าไหนในสต๊อกใกล้หมด สินค้าไหนสต๊อกไว้นานเกินไป เสี่ยงเกิดต้นทุนจม/ไม่ทำกำไร ฯลฯ

ทักษะการจัดการร้าน  และสินค้า รวมไปถึงการดูแลสต๊อก เป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เจ้าของร้านควบคุมค่าใช้จ่าย และต้นทุนได้ ซึ่งเป็นทักษะที่หลายคนขาด มุ่งขายอย่างเดียว โดยที่ไม่ดูต้นทุนที่อาจจะหายไป 

เมื่อเรารู้จักสต๊อกของเราดี รู้ว่าอะไรขายดี-ขายไม่ดี ก็สามารถนำมาต่อยอดในการทำธุรกิจต่อได้ เช่น

• จัดโปรโมชันให้กับสินค้าที่ขายไม่ค่อยออก หรือต้องการล้างสต๊อก
• ชะลอ หรือลดจำนวนการสั่งสินค้าที่ค้างสต๊อกนาน
• สั่งของที่ขายดีเพิ่ม และทำโปรโมชันส่งเสริมการขาย

2. ทักษะการเงิน และการบัญชี

อีกจุดบอดสำหรับพ่อค้าแม่ค้าหลาย ๆ คน เราเข้าใจดีว่า แค่ขายของก็มีอะไรต้องคิดต้องทำมากมาย ไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องการเงินที่ดูยุ่งยาก แต่อย่างไรก็ตาม ทักษะการการเงิน และการบัญชี เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อความยั่งยืนของร้าน และความมั่นคงในการเงินของตัวพ่อค้าแม่ค้าเอง

ดังนั้น จะขอแนะนำ 3 ทักษะการเงิน และบัญชี เรียงจากง่ายไปยาก ดังนี้

• แยกบัญชีเงินฝากส่วนตัว และของร้านออกจากกันเพื่อให้ทราบรายได้-รายจ่ายที่แท้จริงของร้าน ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของร้าน แม้ว่าการแยกบัญชีจะช่วยสรุปรายได้ และรายจ่ายในแต่ละวันหรือเดือนได้ แต่ก็ไม่ละเอียดถึงระดับที่ว่าใช้ หรือได้เงินมาจากอะไร การทำบัญชีช่วยให้รู้ว่าเงินมาจากไหน และค่าใช้จ่ายไปลงที่อะไร เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชัน และเครื่องมือช่วยทำบัญชีมากขึ้น เช่น ลองใช้เวลาศึกษาสัก 1 วัน ชีวิตการเงินง่ายขึ้นแน่นอน
• ออม และแบ่งกำไรไปเป็นสินทรัพย์ประเภทอื่น กำไรจากการค้าขาย ร้านควรแบ่งไว้ออมหรือลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น ตราสารหนี้ หุ้น ทองคำ ฯลฯ เพื่อให้นำมาใช้จ่ายยากขึ้น ช่วยให้เก็บออมได้รัดกุมขึ้น

บทความนี้ว่าด้วย “ทักษะ” แน่นอนว่า เรื่องของการเงิน และการทำบัญชีก็เป็นเรื่องที่ฝึกฝนให้เกิดความเคยชินกันได้ พ่อค้าแม่ค้าที่ยังไม่รู้จะจัดการการเงินอย่างไร แนะนำให้ลองเริ่มที่ข้อแรกดูก่อนได้เลย 

3. ทักษะการเข้าใจ และบริการลูกค้า

การขายของออนไลน์ ขายของเดลิเวอรี แม้ว่าผู้ขายกับผู้ซื้อจะไม่ได้เจอหน้ากันโดยตรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ร้านจะไม่สามารถให้บริการและความช่วยเหลือได้ 

ขายของออนไลน์ การให้บริการก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะสร้างความประทับใจ และสร้างฐานลูกค้าที่จะช่วยรับประกันรายได้ขั้นต่ำให้กับร้านได้ เช่น 

• ใส่ใจความต้องการ และปัญหาของลูกค้า อาจสังเกตจากสต๊อก ยอดขาย ดูว่าร้านของเราลูกค้าชอบซื้อของแบบไหน ส่วนใหญ่แล้วเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทใด ร้านจะได้สื่อสารหรือพูดคุยได้เหมาะสมกับลูกค้า รวมไปถึงให้ความช่วยเหลือ และแนะนำสินค้าอย่างตรงจุด
• หมั่นถามคำติชม ฟีดแบก หรือขอรีวิว พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการขอรีวิวจากลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดียที่ใช้ติดต่อกับลูกค้า หรือการลงขายสินค้าใน LINE MAN ลูกค้าก็สามารถให้ดาวกับร้านได้ จะทำให้ร้านรู้ความต้องการของลูกค้า สิ่งที่ต้องปรับปรุงนอกจากนี้ คำชมหรือรีวิวจากลูกค้ายังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านด้วยหาความต้องการของลูกค้าจากรายงานยอดขาย ด้วยการวิเคราะห์ “รายงานยอดขาย” เช่น ลูกค้าชอบซื้ออะไรคู่กัน การใช้จ่ายต่อการซื้อหนึ่งครั้งเฉลี่ยกี่บาท ฯลฯ เพื่อที่ร้านจะสามารถนำมาออกแบบกลยุทธ์ และจัดโปรโมชันที่เหมาะสม

และมากกว่าทักษะเรื่องการทำความเข้าใจลูกค้า พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือฉมังจะมี ‘สัญชาตญาณ’ ในการรู้จักตลาดที่ดี ซึ่งมาจาก “ความใส่ใจต่อความต้องการของลูกค้า” ที่มีอยู่ในใจเสมอ ต่อจากนี้ เวลาที่ต้องขายของ มีออร์เดอร์เข้ามา หมั่นสังเกตให้เป็นนิสัย เดี๋ยวสัญชาตญาณจะมาเอง

4. ทักษะการตลาดดิจิทัลสำหรับคนค้าขายออนไลน์

เมื่อทำการตลาดบนโลกออนไลน์ คนค้าขายต้องปรับตัวทำการตลาดในรูปแบบที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม ซึ่งทักษะการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Skill) ก็มีอยู่หลายเรื่องด้วยกันที่ต้องฝึกฝน และทดลองทำ 

• ทักษะการใช้งานโซเชียลมีเดีย พัฒนาความคุ้นเคยในการใช้งานโซเชียลฯ ในช่องทางที่ลูกค้าของเราอยู่ เช่น Facebook, Instagram, LINE หรือว่า TikTok หาให้เจอว่า ช่องทางไหนลูกค้าของเราอยู่ และสามารถขายของได้ 
• ทักษะการใช้งาน Market Place หรือแอปฯ ขายของ เช่น Shopee, Lazada หรือข้ามไปตลาดนานาชาติอย่าง Amazon หรือตลาดเดลิเวอรีอย่าง LINE MAN MART เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่องทางเหล่านี้ คือ ตลาดกลางที่มีลูกค้ารอซื้อของจากเราอยู่จำนวนมาก
• ทักษะการบริหาร และโปรโมตคอนเทนต์ อีกหนึ่งทักษะสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ คือ การรู้วิธีการนำเสนอคอนเทนต์ และสินค้าของร้าน ขายดอกไม้จะนำเสนออย่างไรให้มัดใจลูกค้า ขายของสดจะทำคอนเทนต์อะไรให้คนเชื่อถือ ลูกค้ากดสั่งซื้อ แม้ไม่ได้มาเลือกด้วยตัวเอง ฯลฯ
• ทักษะการทำโฆษณา ลองศึกษาวิธีการ การยิงโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้เราสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ จะช่วยให้ร้านสร้างฐานลูกค้าที่เหมาะกับสินค้าได้เร็วขึ้น เพิ่มการมองเห็นร้านค้ามากขึ้น
• ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด การทำการตลาดออนไลน์ มีจุดเด่นที่เราสามารถติดตามข้อมูล และดูผลลัพธ์ของทุกสิ่งที่เราทำได้ เช่น คนเห็นโพสต์เท่าไร มีคนซื้อเท่าไรจากโพสต์นี้ ฯลฯ เมื่อรู้ข้อมูลชัดเจน ก็สามารถนำมาปรับปรุงวิธีการทำการตลาดหรือปรับปรุงการทำงานต่าง ๆ ของร้านได้

5. ทักษะการสร้างคอนเทนต์

อีกทักษะที่ช่วยให้การขายออนไลน์ได้ผลดี มียอดขายเข้ามาต่อเนื่องคือ ทักษะการทำคอนเทนต์ ร้านค้าควรมีการนำเสนอสินค้าที่มีลูกเล่น ชั้นเชิง และการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ติดตาม 

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่พึ่งพาการขายบนโลกออนไลน์ และโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว สามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเหล่านั้นในการทำคอนเทนต์เพื่อส่งเสริมการตลาด อาจจะลองเริ่มต้นทำคอนเทนต์จากแพลตฟอร์มที่ถนัด จากนั้นจึงค่อยต่อยอดทำคอนเทนต์ที่ส่งเสริมการตลาด

• เขียนเนื้อหาแนะนำสินค้าบน Facebook และ Instagram 
• สร้างคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า เช่น วิธีใช้งาน ประโยชน์ของสินค้า ฯลฯ
• การทำไลฟ์สด (Live) ขายของผ่านไลฟ์ หรือการไลฟ์พูดคุย
• การทำวิดีโอสั้นลง TikTok, Shorts, Reels ทั้งเพื่อสร้างความบันเทิงหรือส่งเสริมการขาย เช่น การลงคลิปวิดีโอสอนใช้งานหรือรีวิวสั้น ๆ
• ฯลฯ

6. ทักษะการปรับตัว และเรียนรู้

ที่เขาว่า “เรียนรู้ตลอดชีวิต” มาในยุคนี้ เห็นจะเป็นเรื่องจริง เพราะในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา คนค้าขายต้องปรับตัวอยู่ตลาด ไม่ว่าจะกับโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เข้ามา วิกฤตโรคระบาดที่โลกเผชิญ ทำให้คนค้าขายไม่สามารถอยู่เฉยได้ และต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด 

หนทางที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงรายวันได้ดี ก็คือ “การปรับตัวและเรียนรู้” ไม่ว่าจะเป็น…

• คอยรับฟัง และสังเกต ข่าวสาร พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป การก้าวให้ทันกับเทคโนโลยี  หรืออย่างตอนนี้ ที่ TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถขายของได้ การซื้อของเดลิเวอรีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
• เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ผู้คนเริ่มเข้าไปใช้งาน หากเปิดใจรับ เชื่อว่าก็จะมีโอกาสมากมายรออยู่ 
• กล้าเสี่ยงและทดลอง ทุกอย่างจะเป็นเรื่องใหม่ แต่ข้อดีของโลกออนไลน์ คือ ทุกอย่างถูก และสามารถเริ่มต้นได้ เช่น ใครที่ยังไม่เคบขายออนไลน์ในแพลตฟอร์มไหน ก็สามารถลงทะเบียนขายได้เลยโดยไม่ต้องใช้เงินสักบาท ลองดูว่า แพลตฟอร์มไหนขายดี ทดลองทำไป อาจจะต้องใช้ความพยายามในการเริ่มต้น แต่เมื่อได้คำตอบแล้ว ย่อมคุ้มค่า

‍

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เป็นอีกอาชีพที่ต้องก้าวให้ทันยุคสมัย มีอะไรใหม่ ๆ ให้อัปเดตสกิลกันเพียบ สำหรับใครที่เปิดร้านบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีอย่าง LINE MAN เรายังมีความรู้ และเทคนิคในการขายเดลิเวอรีอีกเพียบให้คุณพัฒนาเพื่อสร้างยอดขาย เรียกยอดให้ร้านได้ไม่รู้จบ

‍

เพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ง่าย ๆ ขยายฐานลูกค้า แถมโกยลูกค้าประจำ! สมัครเลย ใช้มือถือเครื่องเดียวก็สมัครได้ ผ่าน Wongnai Merchant App คลิกที่นี่

‍

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ที่นี่ :

- เทคนิควางรูปสินค้าหน้าร้านยังไงให้น่าสนใจเพิ่มยอดขายได้ถึง 20% คลิก

- 4 ทริค พิชิตใจลูกค้า เพิ่มยอดขาย กำไรปัง คลิก

- 10 เทคนิคลับ จีบลูกค้าใหม่ ให้เป็นลูกค้าประจำ เพิ่มยอดขายต่อเนื่องไม่มีตก! คลิก

‍