เช็กลิสต์! บอกลา 8 นิสัยในครัว รีเซ็ตร้านพร้อมรับปีใหม่

ส่งท้ายปีด้วยการรีเซ็ตครัวรับปีใหม่ ด้วย 8 นิสัยที่ควรเลิก เพื่อเสิร์ฟอาหารอย่างปลอดภัย มั่นใจกว่าเดิม

เมื่อเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนมักตั้งใจเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้ปีต่อไปเป็นปีที่ดีขึ้น สำหรับร้านอาหารเองก็เช่นกัน “ครัว” คือหัวใจสำคัญของธุรกิจ ทุกขั้นตอนที่เกิดขึ้นหลังร้านส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพอาหาร ความปลอดภัยของลูกค้า และประสิทธิภาพการทำงานของทีม ซึ่งบางครั้งเราก็อาจเผลอทำพฤติกรรมบางอย่างซ้ำ ๆ ที่ส่งผลเสียโดยไม่รู้ตัว

ช่วงใกล้ปีใหม่นี้จึงเป็นเวลาเหมาะสมมากสำหรับการทบทวนวิธีการทำงานเดิม ๆ ที่อาจเป็นปัญหาสะสม พร้อมปรับนิสัยใหม่ให้ครัวทำงานได้ราบรื่นขึ้น ลดความเสี่ยงที่มองไม่เห็น และช่วยยืดอายุวัตถุดิบ และอุปกรณ์ให้มีอายุใช้งานได้ยาวนาน ต่อไปนี้คือ 8 นิสัยในครัวที่ร้านอาหารควรทิ้งไว้กับปีเก่า เพื่อเริ่มต้นปีใหม่อย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

1) ล้างกระทะตอนยังร้อน

เวลาทำอาหารเสร็จ เทอาหารลงจานเรียบร้อย หลายคนมักนำกระทะไปล้างทันที หรืออย่างน้อยก็แช่น้ำไว้ก่อน เพื่อป้องกันคราบติดกระทะ แต่การนำกระทะร้อนจัดไปเจอน้ำเย็นจะเกิดภาวะ “Thermal Shock” หรือภาวะช็อกความร้อน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเฉียบพลัน ทำให้วัสดุหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กระทะโก่งงอ แตกร้าว หรือผิวเคลือบหลุดล่อนได้ง่าย ควรรอให้กระทะเย็นลงก่อนแล้วค่อยล้างจะยืดอายุการใช้งานได้ดีที่สุด

2) ผสมน้ำลงในน้ำยาล้างจาน

น้ำยาล้างจานทั่วไปที่ไม่ใช่สูตรเข้มข้น หากเติมน้ำลงไปในขวดจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง ทำให้ยังมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่บนภาชนะ และอาจทำให้เชื้อจุลินทรีย์เติบโตในขวดได้เมื่อทิ้งไว้เป็นเวลานาน หากต้องการเจือจาง ควรแบ่งน้ำยาออกมาผสมก่อนใช้แต่ละครั้ง หรือแบ่งผสมในขวดเล็ก ๆ อีกขวดแทนการผสมน้ำลงไปในขวดโดยตรง

3) ไม่เปลี่ยนฟองน้ำล้างจานเป็นประจำ

ฟองน้ำล้างจานเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ง่าย เพราะมีทั้งความชื้น เศษอาหาร และรูพรุนที่เหมาะต่อการเติบโตของแบคทีเรีย หากใช้ฟองน้ำเดิมนานเกินไป เชื้อโรคอาจปนเปื้อนไปบนภาชนะ และนำไปสู่ปัญหาท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษของลูกค้าได้

วิธีการใช้ฟองน้ำล้างจานให้ปลอดภัย

  • กวาดเศษอาหารออกจากจานก่อนใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดจาน
  • ไม่ควรแช่ฟองน้ำทิ้งไว้ในน้ำ หรือน้ำยาล้างจาน เมื่อใช้เสร็จแล้ว
  • ผึ่งฟองน้ำให้แห้งหลังใช้งานทุกครั้งเพื่อลดความชื้น
  • เปลี่ยนฟองน้ำใหม่ทุก 1 เดือน แม้สภาพจะยังดูดีก็ตาม

4) เก็บอาหารกระป๋องในตู้เย็น

อาหารกระป๋องไม่ว่าจะเป็นของคาวอย่างปลากระป๋อง หรือผลไม้กระป๋อง หากเก็บในตู้เย็นเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนเนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงที่กระป๋องจะเกิดสนิมจากความชื้น ดังนั้นอาหารกระป๋องควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง หากเป็นกระป๋องที่เปิดแล้วควรเทใส่ภาชนะอื่น ๆ ที่มีฝาปิดก่อนนำไปแช่เย็น เพื่อป้องกันการปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

5) ใช้เขียงอันเดียวหั่นทุกอย่าง

การใช้เขียงอันเดียวสำหรับวัตถุดิบทุกประเภท โดยเฉพาะระหว่างเนื้อสัตว์ดิบกับอาหารที่พร้อมรับประทาน เช่น ขนมปัง หรือผลไม้ สามารถทำให้เชื้อโรคจากวัตถุดิบหนึ่งปนเปื้อนไปสู่อีกวัตถุดิบหนึ่งได้ ดังนั้นการแยกเขียงตามประเภทอาหารถือเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยขั้นพื้นฐานในร้านอาหาร เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า และคุณภาพของอาหารที่เสิร์ฟทุกจาน

เพื่อความสะดวก และลดความสับสน ร้านอาหารสามารถใช้ “ระบบแยกเขียงตามสี” ได้ดังนี้

  • เขียงสีแดง – ใช้สำหรับเนื้อสัตว์ดิบจากสัตว์บก เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู
  • เขียงสีเหลือง – ใช้สำหรับเนื้อสัตว์ดิบจากสัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด หรือห่าน
  • เขียงสีน้ำเงิน – ใช้สำหรับปลา และอาหารทะเลดิบทุกประเภท เช่น กุ้ง หอย ปู
  • เขียงสีเขียว – ใช้สำหรับผัก และผลไม้
  • เขียงสีน้ำตาล – ใช้สำหรับเนื้อสัตว์ที่ผ่านการปรุงสุกแล้ว เช่น สเต็ก หรือหมูย่าง
  • เขียงสีขาว – ใช้สำหรับขนมปังและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส หรือเบเกอรี

6) ใช้มันฝรั่งที่มีรากงอก

มันฝรั่งที่เริ่มมีรากงอก หรือมีสีเขียว จะมีปริมาณสารกลุ่มไกลโคอัลคาลอยด์ (Glycoalkaloids) เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสารชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ หรือท้องเสียได้ โดยเฉพาะเมื่อบริโภคในปริมาณมาก เพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขอนามัย และหลีกเลี่ยงอาการอาหารเป็นพิษ ร้านอาหารควรตรวจเช็กวัตถุดิบให้ละเอียด หากพบว่ามันฝรั่งมีรากงอก หรือมีสีเขียว ควรคัดทิ้งทันที และไม่ควรนำมาใช้ปรุงอาหาร

7) ไม่แช่ซอสหอยนางรมในตู้เย็น

ซอสหอยนางรมที่เปิดใช้งานแล้ว หากเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องจะเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย โดยเฉพาะซอสที่ไม่มีวัตถุกันเสีย ดังนั้นร้านอาหารควรปิดฝาขวดให้สนิททุกครั้งหลังใช้ และเก็บในตู้เย็นเพื่อรักษาคุณภาพ นอกจากนี้ การแช่เย็นยังช่วยลดการเกิดออกซิเดชันซึ่งทำให้สี กลิ่น และรสชาติของซอสเปลี่ยนไปได้ สำหรับซอสหอยนางรมที่ยังไม่เปิดฝา สามารถเก็บนอกตู้เย็นได้ แต่ควรเก็บในที่แห้ง ไม่โดนแสงแดด 

8) ล้างไข่ไก่ก่อนเก็บ

เปลือกไข่ไก่มีสารเคลือบผิวตามธรรมชาติที่ป้องกันแบคทีเรีย และอากาศไม่ให้ซึมผ่านรูพรุนบนเปลือกอยู่แล้ว การล้างไข่จะทำให้ชั้นเคลือบนี้หลุดออก เพิ่มโอกาสการปนเปื้อน และทำให้ไข่เสียเร็วขึ้น สำหรับไข่ที่มาจากฟาร์ม และผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อแล้ว ร้านอาหารไม่จำเป็นต้องล้างน้ำก่อนนำไปใช้ แต่หากซื้อไข่จากตลาด และพบว่ามีสิ่งสกปรกติดอยู่ ควรใช้ฟองน้ำ หรือผ้าแห้งเช็ดออกแทนการล้างน้ำ เพื่อคงความปลอดภัย และรักษาคุณภาพของไข่ให้นานที่สุด

การทำร้านอาหารในแต่ละวันอาจมีหลายเรื่องให้ต้องจัดการ จนเราอาจไม่ทันสังเกตว่านิสัยเล็ก ๆ ในครัวก็มีผลกับร้านเช่นกัน ช่วงปีใหม่นี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการกลับมาดูแลครัวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด วัตถุดิบ หรือวิธีการทำงาน เพราะเมื่อหลังบ้านเป็นระเบียบ และปลอดภัย ทุกจานที่ส่งออกไปก็เต็มไปด้วยความมั่นใจมากขึ้น เริ่มต้นปีด้วยการปรับนิสัยเล็ก ๆ เหล่านี้ให้ดีขึ้นทีละน้อย จะช่วยให้ร้านทำงานลื่นไหลขึ้น ประหยัดเวลา ลดปัญหาที่ไม่จำเป็น และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้มากกว่าเดิม

สนใจเริ่มต้นเปิดร้านบน LINE MAN 👉🏻 คลิกเลย

📲 ติดตามข่าวสาร และเทคนิคเพิ่มยอดขาย ที่พ่อค้าแม่ค้า LINE MAN ไม่ควรพลาด ได้ที่กระดิ่งแจ้งเตือนบนแอปฯ Wongnai Merchant App 👉🏻 คลิกที่นี่

บทความแนะนำเพิ่มเติม