เทคนิคจัดการขยะร้านอาหาร ลดกลิ่น ลดแมลง ครัวสะอาดทำตามได้จริง

เรียนรู้วิธีจัดการขยะในครัว ลดของเสีย ครัวสะอาด เพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้าน

หนึ่งในปัญหาที่ร้านอาหารมักเจอคือ เศษอาหารและขยะสะสมในครัว หากปล่อยทิ้งไว้นาน จะกลายเป็นต้นตอของกลิ่นเหม็น แมลงรบกวน และอาจทำให้ภาพลักษณ์ร้านดูไม่สะอาด ทั้งที่จริง ๆ แล้วการแก้ปัญหาไม่ได้ยากเลย เพียงปรับระบบการจัดการให้มีขั้นตอนชัดเจน ร้านก็จะสะอาดขึ้น และยังช่วยสร้างรายได้เพิ่มได้อีกด้วย

วันนี้ LINE MAN พามาเรียนรู้เทคนิคจัดการขยะและเศษอาหารอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ร้านอาหารสะอาด และได้มาตรฐาน

ทำไมร้านควรให้ความสำคัญกับการจัดการขยะ

  • ลดต้นทุนแฝง : การกำจัดขยะเศษอาหารจะช่วยลดปัญหาท่ออุดตัน และค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาด
  • ยกระดับมาตรฐานร้าน : ครัวที่สะอาด โปร่งโล่ง ไม่มีกลิ่น จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
  • โอกาสสร้างรายได้เสริม : ขยะบางชนิดนำกลับมาขายได้จริง เช่น พลาสติก กระดาษ หรือแม้แต่น้ำมันพืชใช้แล้ว

เคล็ดลับจัดการขยะในร้านอาหาร

1. จัดหมวดหมู่ให้ชัดเจน

แทนที่จะทิ้งขยะทุกประเภทรวมกัน ร้านควรแยกใส่ถังอย่างชัดเจน โดยสามารถแบ่งขยะได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • ขยะอินทรีย์ (เศษอาหาร เศษผัก เปลือกผลไม้ เนื้อสัตว์)
  • ขยะรีไซเคิล (ขวดพลาสติก กระป๋อง กล่องกระดาษ)
  • ขยะทั่วไป (ซองขนม พลาสติกปนเปื้อน)

การแยกขยะตั้งแต่ต้นทางทำให้จัดการได้ง่ายขึ้น ลดกลิ่นรบกวน และขยะบางส่วนยังนำไปขายต่อเป็นรายได้เสริมได้อีกด้วย

2. จัดการเศษอาหารให้ไว

เศษอาหารควรทิ้งทุก ๆ 2–3 ชั่วโมง หรือหลังช่วงเสิร์ฟ เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมม

  • สามารถใช้ เครื่องย่อยเศษอาหาร เพื่อแปรรูปเป็นปุ๋ยได้ภายใน 1–2 วัน และนำไปใช้ปลูกต้นไม้ต่อได้
  • น้ำมันพืชใช้แล้ว ควรเก็บรวบรวม เพื่อนำไปขายต่อในราคาประมาณ 12–20 บาท/ลิตร ไม่ควรทิ้งลงท่อ หรือรวมกับขยะชนิดอื่น

3. ขยะบางชนิดสามารถขายต่อได้

ขยะบางประเภทมีมูลค่าในตัว ดังนั้นร้านหากแยกไว้อย่างถูกวิธี เพื่อรอเวลานำไปขายต่อ และนำไปเป็นรายได้เสริมของร้านได้ เช่น

  • ขวดน้ำพลาสติก ราคา 3–6 บาท/กิโลกรัม
  • กล่องกระดาษ ราคา 2–5 บาท/กิโลกรัม
  • กระป๋องเครื่องดื่ม ราคา 40–60 บาท/กิโลกรัม
  • ขวดแก้ว ราคา 0.5–1 บาท/กิโลกรัม

4. เลือกถังและจุดวางให้เหมาะสม

ควรเลือกใช้ถังที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันกลิ่น และสัตว์รบกวน และควรแยกถังขยะตามประเภท เช่น ถังขยะอินทรีย์ ถังขยะรีไซเคิล และถังขยะทั่วไป เพื่อความสะดวกในการทิ้ง

5. วางระบบ และสอนทีมงาน

ควรกำหนดรอบการเก็บขยะอย่างสม่ำเสมอ เช่น รอบเช้า รอบกลางวัน และรอบเย็น พร้อมอบรมพนักงานให้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการแยกขยะ เพื่อให้การดำเนินงานต่อเนื่องและได้ผลจริง นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแรงจูงใจเล็ก ๆ ให้พนักงานเห็นความสำคัญของการกำจัดขยะอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น

  • การนำขยะรีไซเคิลไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งเป็นกองกลางเพื่อแจกจ่ายเป็นรางวัลให้กับพนักงาน
  • จัดกิจกรรมแข่งขันแยกขยะประจำเดือน เพื่อให้พนักงานรู้สึกสนุก ได้ประโยชน์ร่วมกัน และไม่มองว่าเป็นภาระเพิ่ม

การจัดการขยะในครัวไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากเริ่มต้นด้วยการ แยกขยะเป็นประเภท จัดการเศษอาหารอย่างสม่ำเสมอ และใช้ประโยชน์จากขยะรีไซเคิล ก็จะช่วยให้ร้านสะอาด ลดกลิ่น ลดแมลง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้านได้

การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างการจัดการขยะ คือก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานร้านอาหาร และสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในระยะยาว

สนใจเริ่มต้นเปิดร้านบน LINE MAN 👉🏻 คลิกเลย

📲 ติดตามข่าวสารและเทคนิคเพิ่มยอดขาย ที่พ่อค้าแม่ค้า LINE MAN ไม่ควรพลาด ได้ที่กระดิ่งแจ้งเตือนบนแอปฯ Wongnai Merchant App 👉🏻 คลิกที่นี่

บทความแนะนำเพิ่มเติม