อยากยิงโฆษณาให้คุ้ม? ต้องเริ่มจากการทำให้ลูกค้าสั่งมากกว่า 1 เมนู

การทำโฆษณา บน LINE MAN นั้นไม่ได้สำคัญแค่เรื่องยอดคลิก แต่คือ “การเปลี่ยนทุกคลิกให้เป็นกำไร” เพราะการทำโฆษณาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ดังนั้น การใช้กลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายต่อออเดอร์ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้การลงทุนโฆษณาของร้านไม่สูญเปล่า และเพิ่มคุ้มค่าอีกด้วย 

‍

เข้าใจหลักการกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า ก่อนเริ่มทำโฆษณา LINE MAN

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ร้านอาหารสามารถทำได้ทันที คือ การเพิ่มยอดขายต่อออเดอร์ เพราะเมื่อมูลค่าเฉลี่ยของคำสั่งซื้อ (Basket Size) สูงขึ้น ร้านจะมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มงบโฆษณาให้กระทบงบประมาณของร้าน

‍

เปิด 3 ทริค ที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสั่งมากกว่า 1 เมนู

1. เขียนคำอธิบายเมนูให้ชวนสั่งเพิ่ม

คำอธิบายเมนูไม่ได้มีไว้แค่บอกว่ามีอะไรในจานบ้าง แต่ยังสามารถใช้เพื่อจูงใจให้ลูกค้ารู้สึกว่า “ต้องสั่งเพิ่ม” เช่น

• แนะนำว่าเมนูนี้จะอร่อยขึ้น ถ้าทานคู่กับเมนูอื่น โดยจัดเป็นชุดเซต
• เน้นจุดเด่นของเมนูที่แตกต่าง เช่น สูตรเฉพาะ หนังกรอบ หรือน้ำจิ้มรสเด็ด

ตัวอย่าง “หมูกรอบหนังฟู ราดซอสเข้มข้น ทานคู่กับต้มแซ่บยิ่งอร่อย!”

การเขียนคำอธิบายที่ดี ไม่เพียงแต่เพิ่มความน่าสนใจ แต่ยังเป็นเครื่องมือขายแบบที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

‍

2. ใช้โปรโมชั่นจับเมนูคู่ เพิ่มมูลค่าต่อออเดอร์

ร้านสามารถออกแบบชุดเมนูราคาพิเศษ เพื่อจูงใจให้ลูกค้าซื้อหลายเมนูในครั้งเดียว เช่น

• จับคู่เมนูหลัก + เครื่องเคียง
• ชุดเมนูราคาพิเศษเฉพาะช่วงเวลา

ตัวอย่าง “ข้าวไก่ทอด + ซุปต้มยำ จาก 115 บาท เหลือ 99 บาท เฉพาะ 11.00 - 13.00 น.”

เพิ่มยอดขายต่อออเดอรืได้ชัดเจน เพราะเมื่อลูกค้าเห็นความคุ้มค่า ก็มีแนวโน้มจะสั่งเพิ่มมากกว่าปกติ

‍

3. เสนอเมนูเสริม โดยไม่ต้องลดราคา

การแนะนำเมนูเพิ่มเติมที่เข้ากับเมนูหลักที่ลูกค้าเลือกไว้แล้วในราคาย่อมเยา เช่น 

• เพิ่มไข่ดาว 10 บาท
• เพิ่มหมูทอด 15 บาท
• เพิ่มน้ำซุป 15 บาท 

ช่วยเพิ่มยอดขายต่อออเดอร์ โดยที่ลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้ซื้อเพิ่ม และร้านไม่จำเป็นต้องลดราคา

‍

เทคนิคคำนวณจุดคุ้มต้นทุนในการยิงโฆษณา แบบง่าย ๆ มือใหม่ก็เข้าใจได้

การมียอดออเดอร์เพิ่มขึ้นจากเทคนิคต่าง ๆ เช่น การจัดเซตเมนู การเสนอเมูเสริม หรือการเสนอเมนูเสริม ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จในการยิงโฆษณา LINE MAN แต่ก้าวต่อไปที่ร้านควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ การทำให้ มูลค่าเฉลี่ยต่อออเดอร์ สูงกว่า ต้นทุนต่อคลิก

1. ทำความเข้าใจ Basket Size และ CPC

• Basket Size คือ มูลค่าเฉลี่ยของคำสั่งซื้อแต่ละรายการที่ลูกค้าสั่งจากร้าน
• CPC (Cost Per Click) คือ เงินที่ร้านลงทุนไปกับโฆษณา เมื่อมีลูกค้าหนึ่งคนคลิกเข้ามา

หากร้านมี Basket Size สูงกว่า CPC แปลว่าทุกคลิกของโฆษณามีแนวโน้มสร้างกำไร ไม่ใช่แค่ยอดเข้าชม

‍

2. ตรวจสอบรายงานโฆษณาเสมอ

หากเริ่มทำโฆษณาแล้ว แนะนำให้ร้านตรวจสอบรายงานผลโฆษณาบน Wongnai Merchant App อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งระบบจะคำนวณข้อมูลสำคัญ เช่น อัตราผลตอบแทนจากโฆษณา (RoAS) คือ การคำนวณความคุ้มค่าของโฆษณา โดยคิดจากยอดขายทั้งหมดจากโฆษณาเทียบกับต้นทุนโฆษณาทั้งหมดที่ใช้ไป 

ร้านสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อว่าการลงทุนครั้งนี้คุ้มหรือไม่ และร้านสามารถนำผลลัพธ์ต่าง ๆ มาปรับกลยุทธ์ต่อได้ทันที เพื่อให้โฆษณาของร้านมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มงบ ปรับช่วงเวลา ปรับโปรโมชั่น หรือกลยุทธ์อื่น ๆ เป็นต้น

คลิกที่นี่ เพื่อเรียนรู้วิธีอ่านรายงานโฆษณา LINE MAN

‍

ขยายยอดให้ไกลขึ้น ทำโฆษณา อย่างมือโปรฯ!

เมื่อร้านของคุณสามารถบริหารยอดขายต่อออเดอร์ได้แล้ว และได้ทดลองคำนวณต้นทุนกับกำไรจนมั่นใจว่า “ทุกออเดอร์คุ้มค่า” นั่นแปลว่าร้านของคุณอยู่ในจุดที่ได้กำไรอย่างลงตัว

ร้านของคุณสามารถต่อยอด ด้วยการเพิ่มงบ โฆษณา LINE MAN อย่างเป็นระบบ และค่อย ๆ พัฒนา “คุณภาพของร้าน” เพื่อเพิ่มมูลค่าต่อออเดอร์ไปพร้อมกัน

เมื่อร้านวางรากฐานได้ดีแล้ว การทำโฆษณา LINE MAN วันนี้ คือเครื่องมือสำคัญที่จะพาร้าน “ไปต่อ” และเติบโตอย่างมั่นคง

‍

โฆษณา LINE MAN ทำง่ายใน 3 คลิก ดูวิธีทำที่นี่

เริ่มต้นสร้างโฆษณา LINE MAN บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกที่นี่

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ที่นี่ :

• งบน้อยก็ยิงโฆษณาได้! เพียงวางแผนโฆษณาให้คุ้มค่าในทุกบาท
• เช็กลิสต์ 6 ข้อ ก่อนเริ่มวางแผนทำโฆษณาให้ปัง ต้องเริ่มจากการจัดหน้าร้านให้ดูโปร
• หยุดเปิด – ปิดโฆษณาบ่อย แล้วปล่อยให้ระบบได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง

‍